เริ่มจากสไตล์คลาสสิคกันก่อนเป็นการไถข้างให้เตียนโดยผม ด้านบนเหลือไว้ไม่สั้นมากพอที่จัดทรงให้ตั้งได้ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งจะตัดทรงอันเดอร์คัทเป็นครั้งแรกเพราะตัดค่อนข้างง่าย ละไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไปแนะนำให้จัดทรงด้วยโพเมดหรือมูสที่มีความเป็นมันเงา
▲ 2. Layered Undercut
ทรงนี้แตกต่างจากแบบคลาสสิคเล็กน้อยเหมือนเป็นการหลอกตา
ให้เห็นว่าผมด้านบนหนาและยาวเรียกว่าเพิ่มมิติให้เส้นผมเป็นชั้นๆ
นั่นเองแต่สไตล์นี้ต้องอาศัยช่างตัดผมที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษเพราะถ้าซอยไม่
ดีพออาจทำให้ผมด้านบนดูหนาเกินไปไม่รับกับผมด้านข้างที่ไถสั้นเตียน
▲ 3. Slicked Back Undercut
อันเดอร์คัทแบบเสยแนบ
สไตล์นี้บอกเลยว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้เพราะมันเหมาะกับผู้ชายที่มีผมค่อน
ข้างไม่หนามากหรือถ้าหนุ่มคนไหนผมหนาแต่อยากทำคงต้องฝากความหวังไว้กับช่าง
ผมแล้วล่ะอีกส่วนสำคัญที่ทำให้คุณสามารถทำผมทรงนี้ได้คือผลิตภัณฑ์จัด
แต่งทรงผมที่มั่นใจว่าจะทำให้ผมของคุณเสยได้อย่างที่ต้องการและอยู่ทรงได้
ตลอดวันแนะนำว่าควรเป็นโปเมดที่ให้ความเงาจะเพิ่มมิติให้เส้นผมได้ดีกว่า
▲ 4. Puffy Undercut
สไตล์นี้เหมาะกับหนุ่มที่มีเส้นผมหยักโศกที่ค่อนข้างหนาทำ
ให้เกิดมิติที่น่าสนใจซึ่งเหมาะมากกับหนุ่มที่มีผมหยักโศกธรรมชาติเพราะจัด
แต่งทรงผมได้ง่ายเพียงแค่มองหาผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมให้เหมาะกับการเซ็ตซึ่ง
เราว่าเลือกใช้แว็กซ์ได้ทั้งแบบด้านหรือเงาเพราะมันจะช่วยทำให้เส้นผมมีมิติ
น่าสนใจรับกับการอันเดอร์คัทไถเตียนด้านข้างและด้านหลัง
คันเดอร์คัทสไตล์นี้เหมาะกับหนุ่มที่ค่อนข้างมีความั่นใจ พอสมควรเพราะแทบจะไม่มีการซอยผมด้านบนให้บางลงแต่ประการใดเรียกว่าไถข้างออก ขึ้นไปสูงมากและปล่อยผมด้านบนให้ยาวและหนาเท่าเดิมจะเลือกไถด้านเดียวหรือ ทั้งสองด้านอยู่ที่ความมั่นใจเท่านั้นส่วนการเซ็ตทรงอาจดูเหมือนได้แรง บันดาลใจมาจากผู้ชายยุค 40’s พอสมควรคือโปะแว็กซ์หรือโปเมดให้ชุ่มแล้วจัดทรงตามต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจาก:http://men.mthai.com