เหตุผลที่สาวงามจากดินแดนจากลาตินอเมริกาไร้คู่แข่งในเวทีการประกวดนางงาม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน 2 ปีที่ผ่านมา หลายคนชี้ว่าเกิดมาจากความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของคนในประเทศที่เป็นเหมือน พรจากสวรรค์ที่ทำให้พวกเธอดูสวยแปลกตากว่าสาวจากดินแดนอื่นๆ
       
       แต่ยังมีบุรุษอยู่ผู้หนึ่ง ที่แวดวงนางงามโลกให้ความเกรงขามต่อประสบการณ์การปลุกปั้นนางงามมากเกือบ 3 ทศวรรษ กับความสำเร็จที่ทำให้คนในชาติเปรียบเขาดั่ง Pygmalion ตัวละครในตำนานเทพนิยายกรีกที่เนรมิตความงามและความสามารถจากหญิงสาวธรรมดาๆ ให้กลายเป็นดาราจรัสฟ้าเพียงชั่วข้ามคืน
       
       ออสเมล เซาซา ใช้เวลาส่วนใหญ่ในวัยเด็กหมดไปกับการวาดภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเขาไม่วาดอะไรเลยนอกจากตุ๊กตาสาวสวยที่มีสไตล์และสมบูรณ์แบบ
       
       จนเมื่อโตเป็นหนุ่ม ขณะที่ยึดอาชีพเป็นศิลปินในแวดวงโฆษณา เขาได้มีโอกาสในการร่วมงานกับองค์กรที่ต่อมากลายจะเป็น Miss Venezuela Organization ในปี 1969 โดยการให้คำแนะนำเทคนิกในการประกวดกับนางงามที่ถูกเลือกแล้ว ซึ่งทุกคนที่ผ่านการเทรนด์ของเขาต่างเข้ารอบลึกๆ และกลายเป็นนางงามเวเนซุเอลาหลายต่อหลายคน จนเขาได้ขยับมาสู่หน้าที่ผู้ออกแบบชุดราตรีให้กับผู้เข้าประกวด และก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำรวยการกองประกวดในปี 1976

  ในปี 1981 ออสเมล เซาซา ได้ครองตำแหน่งประธานของ Miss Venezuela Organization สำเร็จ ซึ่งตลอด 28 ปีที่ผ่านมา อดีตเด็กชายที่ชอบวาดรูปตุ๊กตาผู้นี้ได้ส่งหญิงสาวชาวบ้านจากทั่วประเทศ เวเนซุเอลาให้กลายเป็นดาวเด่นบนเวทีประกวดระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย กับสถิติที่ไม่มีใครเทียบเทียมในแกรนด์สแลมเวทีขาอ่อนโลก ทั้งตำแหน่ง Miss Universe 6 ครั้ง, Miss International 5 ครั้ง, Miss World 4 ครั้ง และ Miss Earth 1 ครั้ง ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเข้ามาเป็นประธานกองประกวดของเวเนซุเอลาทั้งสิ้น
       
       เบื้องหลังความสำเร็จอันมากมายนี้ เป็นผลตอบแทนมาจากวิสัยทัศน์ที่ทะลุปรุโปรงในแวดวงประชันขาอ่อนของตัวเอาเอง ทั้งสายตาในการมองเห็นศักยภาพที่อยู่ในตัวของเหล่า "เพชรในตม" มากมายที่เดินมาหาเขาในแต่ละปี แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะรับประกันได้ว่าหญิงสาวทุกคนที่ได้พบเจอกับยอดนัก ปั้นมือทองผู้นี้จะมีโอกาสร่วมงานกับเขาได้
       
       "เมื่อถึงเวลาที่ผมต้องตัดสินผู้มีคุณสมบัติในการเข้าประกวด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผ่านมือผมมาเกือบ 30 ปี ผมต้องกลายเป็นคนสารเลว ผมต้องซื่อสัตย์กับความคิดตัวเอง เพราะผมไม่ต้องการให้พวกเธอต้องมาเสียเวลากับผม เช่นเดียวกับเวลาที่ผมต้องเสียให้พวกเธอ ถ้าพวกเธอไม่สวยพอ ผมจะบอกตรงๆ ให้พวกเธอกลับมาใหม่ปีหน้า จากนั้นผมก็จะบอกกับพวกเธอตรงๆ ว่า 'เธอคุณสมบัติไม่ถึง และช่วยเอาความคิดที่จะโต้เถียงออกไปจากหัวเสียด้วย' "
       
       "จริงๆ แล้วเราไม่มีมาตรฐานกลางที่ชี้วัด แต่อย่างน้อยพวกเธอที่มาสมัครต้องหน้าตาดูดี แน่นอนว่าผมอยากให้พวกเธอสูงและมีเสน่ห์เพราะมันถือเป็นไม้ตายเวลาที่ขึ้นไป อยู่บนเวที สาวบางคนอาจจะดูชวนมอง แต่เธอต้องการมากกว่าในการสร้างแรงบันดาลใจที่โดดเด่น โดยเฉพาะเมื่อขึ้นไปเดินบนแคทวอร์ค ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับสิ่งที่เรียกว่าเวทีประกวดนางงาม"