พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯทรงเกริ่นถึงมิตรภาพเริ่มต้นว่า ทรงรู้จักพระสหายทั้ง 3 คน ที่โรงเรียนจิตรลดา ซึ่งเป็นนักเรียนรุ่นที่ 35 ด้วยกัน โดยทรงรู้จัก "ปลาทู" ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ส่วนอีก 2 คน ทรงรู้จักตอนชั้นประถม ตอนเด็กๆแต่ละคนมีฉายาสนุกๆ อย่าง "สิ"  ตัวยาวมีฉายาว่า โอลีฟ โย่งยาว ยีราฟ "เฟม" มีหน้าผากกว้างเป็นพิเศษ เลยมีฉายาว่า เหม่ง ส่วนปลาทูเปลี่ยนไปหลายอย่าง ทั้งปลาเค็ม, ปลากระโฮ้ ส่วนพระองค์หญิงนั้น พระสหายจะเรียกท่านว่า "ตึก"  เพราะท่านหญิงทรงสวมส้นตึกที่กำลังฮิตสมัยนั้น โดยทรงเป็นผู้นำแฟชั่นมาตั้งนานแล้ว

นอกจากนี้ พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงถ่ายทอดความผูกพัน และวีรกรรมต่างๆ ว่า ทรงมีโอกาสได้เดินทางร่วมกับพระสหายทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ สำหรับในเมืองไทยจะเป็นลักษณะลุย โหด มัน ฮา ไปปีนเขา ซึ่งพระสหายลงความเห็นว่า พระองค์หญิงฯโปรดที่ลุยๆ และทรงจัดโปรแกรมเองให้ตื่นเช้า นอกจากนี้ ยังทรงเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว หากมีการงอนกันก็ไม่เกินครึ่งวัน โดยพระองค์หญิงฯ จะทรงห่วงใยเพื่อนๆตลอด รวมทั้งเรื่องแฟนใครจะมีแฟนต้องส่งให้พระองค์ตรวจสอบก่อน ซึ่งพระองค์หญิงฯ รับสั่งว่า ห่วงเพื่อน กลัวว่าใครจะมาทำร้ายจิตใจเพื่อนหรือเปล่า คนนี้จะมาดูแลเพื่อนเราได้จริงหรือเปล่า เลยเหมือนกันท่าไว้

พระองค์หญิงฯได้ทรงนิยามคำว่า "เพื่อน"  ว่า เพื่อนคือคนที่เราไว้ใจที่สุดและเป็นคนที่เราคิดถึงอยู่เสมอ ถึงแม้เขาจะไม่อยู่ใกล้ๆเป็นคนที่สามารถปรึกษากันได้ ดูแลซึ่งกันและกัน และเข้าใจกัน บางเรื่องเข้าใจกันได้โดยไม่ต้องพูด เพื่อนของพระองค์ต้องไม่ใช่ชวนกันไปเละเทะ นอกจากนี้ จะทรงช่วยเพื่อนๆทุกคนเท่าที่จะทรงช่วยได้ รับฟังบ้างเวลาที่เพื่อนมีปัญหา การแสดงออกของพระองค์อาจจะตรงๆ แต่เข้าใจง่าย
ในขณะที่พระสหายได้แสดงความรู้สึกต่อพระองค์หญิงว่า ทรงมีความห่วงใยต่อเพื่อน จะทรงถามสารทุกข์สุกดิบเสมอๆ และทรงทำให้เพื่อนๆรู้สึกสดชื่นเมื่ออยู่ใกล้.